5375 จำนวนผู้เข้าชม |
หมู่บ้านบนผาหินงามที่ ชิงเกว่ แตร์เร (Cinque Terre) หมู่บ้านที่ใครได้มาเที่ยวแล้วต้องตกหลุมรัก
Cinque Terre เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งริเวียร่าของประเทศอิตาลี ซึ่งคำว่า "Cinque Terre" มีความหมายว่า “ดินแดนทั้งห้า (Five Land)” นั่นเอง ทั้ง 5 หมู่บ้านสร้างอยู่บนหน้าผาริมชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน บรรยากาศเหมาะกับการนั่งจิบชา กาแฟแบบชิลล์ๆ
ไฮไลท์สำคัญของทั้ง 5 หมู่บ้านบนผาหินงามนี้คงหนีไม่พ้นเหล่าอาคารบ้านเรือนสีสันสดใส ตั้งลดหลั่นกันอยู่ตามริมหน้าผา ตัดกับสีของน้ำทะเล มองดูแล้วสวยมากๆเลยค่ะ นอกจากนี้ Cinque Terre ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสถานที่อนุรักษ์ World Heritage Site ปี 1997 ขององค์การยูเนสโก อีกด้วย
เพื่อนๆหลายคนคงมีคำถามว่า หากต้องการไปเที่ยวที่นี่ควรจะเที่ยวช่วงไหน เดินทางด้วยวิธีไหนบ้าง และหากต้องเลือกเที่ยวบางหมู่บ้าน ควรจะไปที่หมู่บ้านไหนดี ที่นี่มีคำตอบค่ะ
ฤดูการที่เหมาะที่จะเที่ยวทั้ง 5 หมู่บ้านนี้คือช่วงเดือนพฤษภาคม - เดือนกันยายน แต่ในช่วงหน้าหนาวก็เที่ยวได้นะคะ แค่ไม่มีเรือบริการแค่นั้นเองค่ะ
การเดินทางไปยังทั้ง 5 หมู่บ้าน จะเลือกแบบไหนก็ได้ตามใจคุณ
สายชิลล์ ไม่รีบ ให้นั่งเรือชมวิวดื่มด่ำกับ ธรรมชาติทางทะเล (เรือจะไม่แวะจอดที่ หมู่บ้านคอร์นีเลีย (Corniglia) เพราะไม่มีท่าเทียบเรือค่ะ)
สายประหยัด และมีเวลาเที่ยวจำกัด ให้นั่งรถไฟ ชมวิวสองข้างทางกับธรรมชาติ ที่สวยงาม
ทั้ง 2 วิธีนี้สามารถขึ้นได้ที่เมืองลา สปีเซีย (La Spezia) |
หมู่บ้านที่เป็นที่นิยมที่สุด มีอยู่ 3 หมู่บ้านด้วยกันคือ ริโอมัจจอร์เร (Riomaggiore), เวร์นาซซา (Vernazza) และมานาโรลา (Manarola)
ริโอมัจจอร์เร (Riomaggiore) | เวร์นาซซา (Vernazza) | มานาโรลา (Manarola) |
หมู่บ้านทั้ง 5 ของ Cinque Terre มีอะไรน่าสนใจบ้างตามไปดูกันเลย
ริโอมัจจอร์เร (Riomaggiore) เป็นหมู่บ้านใต้สุดของ Cinque Terre เดิมเป็นแหล่งเพราะปลูกองุ่น และมะกอก จากนั้นก็ค่อยๆผันตัวมาทำประมงร่วมด้วย จนปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเทียวที่ได้รับความนิยมมาเป็น อันดับต้นๆ ติด 1 ใน 3 หมู่บ้านที่น่าเที่ยวที่สุด ของ Cinque Terre
หมู่บ้านนี้มีความโดดเด่นที่อาคารบ้านเรือนเป็นหินแบบดั้งเดิม ด้านหน้าบ้านถูกทาด้วยสีสัน สดใส และหลังคาทำจากหินชนวน หากปีนขึ้นไปตามสันเขาจะมอง เห็นทะเลสีครามที่สวยสดใสด้วยค่ะ นอกจากนี้ในเมืองยังสามารถเที่ยวชมโบสถ์ San Giovanni Battista เป็นโบสถ์ที่ถูกสร้างขึ้นใน ปีค.ศ. 1340 เป็นโบสถ์สไตล์กอธิค และยังมีปราสาท Castle of Riomaggiore เป็นจุดชมวิวแบบ Panorama ด้วยนะคะ
หมู่บ้านนี้ยามค่ำคืน ยังครึกครื้นไปด้วยผู้คนที่ ออกมาท่องราตรีกัน เพราะที่นี่มีร้านให้นั่งกินลม ชมวิว เคล้าเสียงเพลงมากมายค่ะ และหากมาที่นี่อีกอย่างที่ต้องห้ามพลาดเลยคือการชิมเจลาโต้ ไอศกรีมยอดนิยมของอิตาลีค่ะ ท้องฟ้าสีสันสดใส ตัดกับสีของบ้านเรือนในแถบนี้ ถ้าได้นั่งจิบกาแฟสักแก้ว รับรองว่าฟินน์สุดๆกันไปเลยค่ะ
เวร์นาซซา (Vernazza) เป็นหมู่บ้านที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น "ราชินีแห่ง Cinque Terre" เคยเป็นแหล่งปลูกมะกอก และผลิตน้ำมันมะกอกที่ดีที่สุดในประเทศ แต่ปัจจุบันหันมาปลูกองุ่นเพื่อทำไวน์กันมากขึ้น
หมู่บ้านรายล้อมด้วยบ้านเรือนพาสเทลสีสันสดใส ภายในมีร้านอาหารและบาร์ชั้นดี แถมมีท่าเทียบเรือที่ยาวสวยงามกว่าหมู่บ้านอื่นๆ และยังมีโบสถ์ Santa Margherita di Antiochia ตั้งโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ที ่สำคัญของหมู่บ้านอีกด้วย
นอกจากจะมีท่าเรือที่สวยงามแล้ว ยังมีป้อมปราการโบราณที่ปัจจุบันเป็นจุดชมวิวไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมวิวแบบ Panorama กันด้วยค่ะ อยากได้มุมสวยๆ ต้องเตรียมความพร้อมของกำลั งขาไปกันให้ดีๆนะคะ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
เวร์นาซซา (Vernazza) เป็นเมืองที่ไม่มีรถติดและเป็นหนึ่งใน "หมู่บ้านชาวประมง" ที่ดีที่สุดในอิตาเลียนริเวียร่าที่มีท่าเรือตามธรรมชาติที่สวยงามที่สุดใน Cinque Terre ถือเป็นหนึ่งหมู่บ้านที่ต้องห้ามพลาดค่ะ
มานาโรลา (Manarola) เป็นหมู่บ้านที่มีขนาดเล็ก แต่ก็มีชื่อเสียงที่สุดในบรรดาหมู่บ้านทั้งหมดของ Cinque Terre อุตสาหกรรมดั้งเดิมคือ การทำประมง และไวน์ ซึ่งไวน์ท้องถิ่นอย่าง Sciacchetrà มีชื่อเสียงเป็นพิเศษ บ้านเรือนส่วนใหญ่ในมานาโรลาสร้างขึ้นบนหน้าผาสูงประมา ณ 70 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ในหมู่บ้านมีถนนสายหลักเพียงเส้นเดียว มีท่าเรือเล็กๆที่ทอดตัวลงมาจากตัวหมู่บ้านสวยงามลงตัวสุดๆ
อีกไฮไลท์หนึ่งที่ต้องห้ามพลาดคือการเดิน Trekking เส้นทางจาก Manarola ไปยัง Riomaggiore โดยใช้เส้นทาง Via dell’Amore (Lovers ’Lane) ทางเท้าที่พื้นทำจากการแกะหินลัดเลาะไปตามแนวเขา นับว่าเป็นเส้นทางที่สามารถ ชมวิวของหมู่บ้านได้เป็นอย่างดีค่ะ
หากมีเวลาให้เดินเล่นชิลล์ๆไปชมพระอาทิตย์ตกดิน ทั้งวิว ทั้งแสงของธรรมชาติ ตัดกับสีของน้ำทะเล จะเป็นภาพสวยงามสุดๆค่ะ ทุกๆวันที่ 8 ธันวาคม จนถึงสิ้นเดือนมกราคม ของทุกปี หมู่บ้านนี้จะมีเทศกาลแห่งแสงสว่าง ซึ่งเนินเขาจะส่องสว่างไปด้วยโคมรูปร่างต่างๆไฟกว่า 12,000 ดวง
ตรอก ซอก ซอยเล็กๆในหมู่บ้าน Manarola ถือเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของหมู่บ้านนี้ หากเพื่อนๆสภาพร่างกายพร้อม แนะนำให้เดินเที่ยวชมจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของคนที่นี่ได้อย่างแท้จริงค่ะ
คอร์นีเลีย (Corniglia) เป็นหมู่บ้านที่สูง และเก่าแก่ที่สุดในบรรดาทั้ง 5 หมู่บ้าน ก่อตั้งขึ้นโดยชาวโรมันโบราณ นักท่องเที่ยวหลายคนเลือกที่จะมองข้ามหมู่บ้านนี้ไป เพราะไม่มีชายหาด และบันไดขึ้นไปยังหมู่บ้านมีความสูงชัน จึงทำให้อาชีพส่วนใหญ่ของคนในหมู่บ้านจะนิยมทำฟาร์มมาก กว่าการออกหาปลา แถมหมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้าน เดียวที่ไม่สามารถเข้าถึงได้จากทางทะเลอีกด้วย การเดินทางเข้าสู่หมู่บ้านนี้วิธีที่ดีที่สุด คือการนั่งรถไฟจาก La Spezia ค่ะ
ถึงแม้ว่าหมู่บ้านนี้มองดูผิวเผิน เหมือนจะไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่ถ้ามองในมุมของประวัติศาสตร์แล้วกลับเป็นหมู่บ้านที่มีความน่าสนใจที่สุดในบรรดาทั้ง 5 หมู่บ้านเพราะมีการค้นพบสิ่งประดิษฐ์เดียวกันกับที่พบในเมืองปอมเปอี (Pompeii) เมืองที่เคยสาบสูญจากการระเบิดของภูเขาไฟวิสุเวียส
แถมยังมีจตุรัส Taragio สร้างในศตวรรษที่ 18 เป็นจุดนัดพบที่สำคัญกลางเมืองให้ได้เที่ยวชมอีกด้วย ถ้ากำลังขาไหว การไปถึงจุดชมวิวด้านบนสุดจะได้เห็นทิวทัศน์อันงดงาม และน้ำทะเลใสราวคริสตัล
มอนเตรอสโซ อัล มาเร (Monterosso al Mare) ถึงจะเป็นหมู่บ้านที่มองดูแล้วจะมีเสน่ห์น้อยที่สุด แต่ก็เป็นหมู่บ้านที่ใหญ่ที่สุด และมีชายหาดกว้างที่สุดในบรรดา 5 หมู่บ้านของ Cinque Terre มีชื่อเสียงในเรื่องของการปลูกมะนาว ไวน์องุ่นขาว และมะกอก หมู่บ้านนี้มีอุโมงค์เป็นตัวแบ่งระหว่างหมู่บ้านเก่า และหมู่บ้านใหม่
หมู่บ้านเก่า จะถูกล้อมรอบด้วยกำแพง และป้อมปราการโบราณ
หมู่บ้านใหม่ (Fegina) เป็นฝั่งที่มีความทันสมัย มีแนวชายหาดที่เหมาะแก่การเดินเล่นกินลมชมวิวเป็นอย่าง มาก
การเข้าถึงหมูบ้านนี้จะเดิน ทางโดยเรือ รถไฟ หรือจะรถส่วนตัว ก็สะดวกสบายค่ะ
เอกลักษ์สำคัญอีกอย่างของเมืองนี้คือ เจ้ายักษ์ Statua del Gigante ที่ตั้งอยู่ปลายสุดของชายหาด เป็นซากปรักหักพังที่ไม่มีแขน เพราะถูกระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรเมื่อครั้งเกิดสงคราม Statua del Gigante ถูกออกแบบและสร้างโดย Arrigo Minerbi นักประติมากรชาวอิตาเลียนชื่อดังที่เป็นที่รู้จักจากผลงานการทำประตูทองสัมฤทธิ์ของมหาวิหาร Duomo ในมิลาน ว่ากันว่ามีนักไต่เขาค้นพบสมบัติที่ส้นเท้าของยักษ์อีกด้วยนะคะ
หากเบื่อที่จะเดินเที่ยวชมตามหมู่บ้านแล้วละก็ การได้นั่งพักอาบแดดริมชายหาด ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีของหมู่บ้านนี้ค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ความสวยงามของทั้ง 5 หมู่บ้านที่ Cinque Terre ที่เราอยากให้เพื่อนๆเก็บไว้ เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจใน การท่องเที่ยว
รับรองรองว่าถ้าหากคุณได้มา เที่ยวที่นี่แล้วจะต้องตกหลุมรักอย่างแน่นอนค่ะ